ความกลมกลืนของรสชาติ
ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางในฝันแห่งหนึ่งของโลก นอกจากผู้คนที่เป็นมิตรและชายหาดที่สวยงามแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผู้คนมักจะพูดถึงประเทศไทยก็คืออาหารไทย อาหารประจำชาติรสเลิศช่วยชูให้ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในเมืองสวรรค์ด้านอาหารของโลก และมักจะได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับต้นๆอยู่บ่อยครั้ง
ตัวอย่างเช่น เมื่อไม่นานมานี้ CNNGO.com ได้ประกาศรายชื่อ "อาหารที่อร่อยที่สุดในโลก 50 อันดับ" ออกมา และอาหารที่รั้งตำแหน่งอันดับหนึ่งไว้ได้ก็คือ แกงมัสมั่น ของไทย ในบทความได้กล่าวไว้ว่าแกงมัสมั่นนั้น "เป็นราชาของแกทั้งปวง หรืออาจจะเป็นราชาของบรรดาอาหารทั้งหมดเลยก็ว่าได้"
แม้ว่าอาหารไทยจะขึ้นชื่อในเรื่องของความเผ็ดและจัดจ้าน แต่ก็มีรายการอาหารไทยอีกมากมายที่ไม่ได้มีรสจัดเช่นนั้น อันที่จริงแล้วหลักการที่ซ่อนอยู่ในอาหารไทยรสเลิศคือความสมดุลและกลมกล่อมเฉกเช่นเดียวกับวัฒนธรรมที่เป็นต้นกำเนิดของอาหารเหล่านี้ พ่อครัวอาหารไทยที่ดีจะต้องเป็นทั้งนักพฤกษศาสตร์ นักสมุนไพร ผู้ควบคุม และพ่อครัวที่มีใจรักในการทำอาหาร
การสะท้อนวัฒนธรรมและศาสนา
แท้จริงแล้วอาหารไทยได้รับอิทธิพลมากมายจากทั้งวัฒนธรรมไทยและศาสนาประจำชาติอันได้แก่ศาสนาพุทธ ประชากรชาวไทยส่วนใหญ่เคยอยู่อาศัย - และยังคงอยู่อาศัยในชนบท โดยประกอบอาชีพเกษตรกรรม แม้ว่าเกษตรกรส่วนใหญ่จะเป็นชาวนา แต่ก็มีเกษตรกรที่ปลูกธัญพืชอื่นๆและเลี้ยงสัตว์ด้วย ได้แก่ปลา กุ้ง และอาหารทะเลอื่นๆที่คนไทยนิยมรับประทานเป็นอย่างมาก
ดังนั้น แม้กระทั่งรายการอาหารไทยที่ธรรมดาที่สุด เราก็ยังพบความกลมกล่อมที่ลงตัวระหว่างรสชาติและการผสมผสานอันแยบยลระหว่างสมุนไพรท้องถิ่นกับพริกและผักนานาชนิด พร้อมกับเนื้อสัตว์อีกเล็กน้อยได้ อาหารประจำชาติไทยที่แสดงให้เห็นถึงหลักการข้อนี้ก็คือต้มยำกุ้งที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยรายการอาหารน่ารับประทานนี้รั้งอันดับ 8 อาหารที่อร่อยที่สุดในโลกที่จัดโดย CNNGO ที่ได้กล่าวเอาไว้ในข้างต้น
ในโลกเรานี้จะเห็นได้ว่าปริมาณเนื้อสัตว์ที่ขายกันนั้นมีไม่มากเท่าใดนัก และโดยมากก็มักจะขายกันอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ดังนั้นคนไทยจึงได้เพิ่มพูนความรู้เรื่องธรรมชาติมากมาย สังเกตได้จากรายการอาหารที่มีข้าวเป็นส่วนประกอบหลัก - ไม่ว่าจะเป็นข้าวสวยหรือข้าวเหนียว ผักและผลไม้นานาชนิด อาหารทะเลที่มีทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มมากมายหลายประเภท และยังมีผักที่ใช้สำหรับตกแต่งอาหารและเครื่องปรุงแต่งรสอาหารที่ทำเองในครัวเรือนด้วย เช่นน้ำปลา ปลาร้า ผักดอง และแน่นอนว่ารวมไปถึงเครื่องเทศที่ขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปสำหรับใช้ในการเพิ่มรสชาติอาหารให้เผ็ดร้อนขึ้นด้วย หลายร้อยปีที่ผ่านมา ชาวไทยได้สังเกตและรู้จักชาวต่างชาติรวมไปถึงอาหารของพวกเขาที่เข้ามาในราชอาณาจักรผ่านการค้าที่ขยายตัวขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เรื่อยมา ชาวไทยรับเอาเคล็ดลับใหม่ๆและเริ่มผสมผสานอาหารไทยเข้ากับส่วนประกอบที่ชาวโปรตุเกส ดัชต์ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่นใช้กัน อันที่จริงพริกเองก็เข้ามาในประเทศไทยผ่านทางผู้เผยแผ่ศาสนาชาวโปรตุเกสที่ได้มาจากทางอเมริกาใต้อีกทอดหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ที่มีการใช้พริกมาก่อนหน้านี้แล้ว
จากตะวันตกสู่ตะวันออก
เช่นเดียวกัน กรรมวิธีการทำอาหาร เคล็ดลับ ส่วนประกอบ หรือแม้กระทั่งมารยาทในการรับประทานอาหารของชาวต่างชาติก็ได้แทรกซึมอยู่ในวัฒนธรรมสยามมากว่าหลายศตวรรษ ตัวอย่างเช่นเนยเหลวของอินเดียก็ถูกแทนที่ด้วยกะทิที่ไม่เคยเสื่อมความนิยมและถือได้ว่าเป็นวัตถุดิบประจำวัน 
มีการเจือจางรสชาติที่เข้มข้นและเผ็ดจัดลง แล้วเพิ่มสมุนไพรสดๆอย่างตะไคร้กับข่าเข้าไปแทน
มีการเจือจางรสชาติที่เข้มข้นและเผ็ดจัดลง แล้วเพิ่มสมุนไพรสดๆอย่างตะไคร้กับข่าเข้าไปแทน
อาหารไทยนั้นมีความแตกต่างกันไปตามภูมิภาคท้องถิ่นทั้งสี่ของประเทศไทย โดยอาหารแต่ละภาคนั้นก็จะได้รับอิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่นอาหารทางเหนือก็จะได้รับอิทธิพลจากอาหารจีนและอาหารพม่า หรืออาหารใต้ก็จะได้รับอิทธิพลจากอาหารมาเลย์และอาหารอินเดีย นอกจากนี้ยังมีอาหารอีสานที่เป็นอาหารประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยด้วย เช่นข้าวเหนียว ส้มตำ และอาหารที่เป็นเนื้อบดอย่างน้ำตกหมูจานเด็ด (ติดอันดับที่ 19 อาหารที่อร่อยที่สุดในโลกจัดโดย CNNGO) และยังมีอาหารประจำชาติที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในกรุงเทพและใจกลางของประเทศไทย อย่างเช่น ต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่ แกงเขียวหวาน และผัดไท ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย
รสชาติของไทย
เอกลักษณ์ของอาหารไทยคือการรวมกันของรสชาติ ความเข้มข้น และกลิ่นหลายๆแบบเข้าไว้ด้วยกัน มีทั้งรสหวาน เปรี้ยว เค็ม ขม เผ็ดร้อนและเย็น ทั้งแบบเข้มข้นและเจือจาง ตัวอย่างเช่นอาหารไทยมักจะมีซุป น้ำแกง ผักสดกรอบแช่เย็นพร้อมกับซอสจิ้มมากมาย อาหารที่ทำจากปลาจานใหญ่ และอาหารประเภทผักอีกหลายชนิด โดยมีเป้าหมายคือเพื่อรังสรรค์ความกลมกล่อมให้กับรสชาติและความเข้มข้นของอาหาร ซึ่งจะพิจารณาทั้งในแง่ของอาหารจานเดี่ยวและมื้ออาหารในภาพรวม
ประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยจะช่วยสร้างความคุ้นชินให้กับชาวต่างชาติ เนื่องจากเป็นทั้งประสบการณ์ด้านสังคมและประสบการณ์ด้านอาหารในเวลาเดียวกัน กล่าวคือได้รับประทานอาหารร่วมกัน ปฏิบัติตามมารยาทการรับประทานสากลพร้อมกับเรียนรู้พฤติกรรมและลักษณะประจำวัฒนธรรม อาหารส่วนใหญ่จะเสิร์ฟพร้อมกันไว้ให้ทุกคนในโต๊ะอาหารได้รับประทาน โดยแต่ละคนจะมีจานข้าวส่วนตัวที่เป็นเหมือนสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการรับประทานอาหารแต่ละมื้อ
ผู้ที่รับประทานจะตักอาหารต่างๆเต็มช้อน คลุกเคล้าหรือผสมกันตามรสชาติที่พวกเขาชื่นชอบ ความเคารพนบนอบต่อผู้ใหญ่แสดงออกผ่านทางการเสิร์ฟอาหารให้แก่ผู้อาวุโสก่อน และตักส่วนที่ดีที่สุดในจานอาหารให้ ปัจจุบันนี้ส้อมที่ถืออยู่ในมือซ้ายทำหน้าที่กวาดอาหารให้เข้าไปอยู่ในช้อน และช้อนซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักในการกินก็จะถืออยู่ในมือขวา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น